บันทึกของตุ๊กตา (50%)
บันทึกของตุ๊กตาตัวหนึ่ง ที่ถูกเล่าขานว่าเป็นตุ๊กตาต้องสาป ตุ๊กตาตัวน้อยที่เฝ้าคอยคนที่จะมารักเธออย่างจริงใจ
ผู้เข้าชมรวม
133
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
บันทึกของตุ๊กตาตัวหนึ่ง ที่ถูกเล่าขานว่าเป็นตุ๊กตาต้องสาป ตุ๊กตาตัวน้อยที่เฝ้าคอยคนที่จะมารักเธออย่างจริงใจ
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บันทึกของตุ๊กตา 1
ฉันคือ “ตุ๊กตา”
ตุ๊กตาที่ถูกสร้างเลียนแบบมนุษย์
คนที่สร้างฉันขึ้นมา เขาใช้เวลาเกือบครึ่งชีวิตของเขาเพื่อสร้างฉัน ทุ่มเททั้งชีวิตจิตใจ ใส่ความรู้สึกทั้งหมดลงในตัวฉัน พอสร้างฉันเสร็จ เขาก็ดีใจอย่างยิ่ง เขาพึมพำซ้ำไปซ้ำมา
"ในที่สุด! ในที่สุดก็สำเร็จ ผลงานชิ้นเอกของฉัน"
เขาพึมพำพลางยิ้มดีใจ แต่จู่ๆเขาก็ทรุดตัวลง แล้วไม่ขยับอีกเลย ฉันไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไร ทำไมถึงได้ไม่ขยับกัน?
ไม่นานก็มีคนมาพบเขาและฉันในห้องสร้างตุ๊กตาเล็กๆนี้ คนๆนั้นกรีดร้องเมื่อเห็นร่างของคนที่สร้างฉัน พลางตะโกนว่า "ไม่นะ เขาตายแล้ว!"
ตาย...คืออะไรกัน?
ฉันถูกพาตัวมาไว้ในห้องเล็กๆ มันมืดและแคบมาก...
ในนั้นมีตุ๊กตาอีกมากมาย หลายตัว ฉันมองไปรอบๆด้วยความสงสัยและงุ่นงง
ใกล้ๆกับฉันมีตุ๊กตาอยู่สามตัว
ทางซ้ายของฉันคือตุ๊กตากระต่ายสีชมพูสวมชุดเอี้ยมยีนส์ แสนน่ารัก เธอท่าทางร่าเริง และเป็นมิตร เธอหันมายิ้มให้ฉันอย่างใจดี ทางด้านขวาเป็นตุ๊กตางูตัวสีน้ำเงิน ตาขวางเป็นประกายกล้าสีทอง เขาท่าทางน่ากลัวและไม่เป็นมิตรเสียเท่าไหร่ เขาจ้องฉันราวกับกำลังจ้องเหยื่ออันโอชะ สุดท้าย ด้านหน้าของฉัน ตุ๊กตาหมีขนปุยสีน้ำตาล สวมแว่นตา เขาไม่ได้ร่าเริงเป็นมิตรเหมือนตุ๊กตากระต่าย แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร เขาเพียงแค่มองฉันแบบสำรวจเงียบๆ
ฉันมีเรื่องที่สงสัยมากมาย ฉันควรจะลองถามพวกเขาดูดีกว่า
ฉันเลือกที่จะเข้าไปถามตุ๊กตาหมี แม้ในตอนแรกเขาจะทำท่าทางไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับฉันนัก แต่ในที่สุด เขาก็ยอมตอบฉัน เขาบอกกับฉันว่า
“ที่นี้คือห้องเก็บของ พวกเราถูกนำมาเก็บเอาไว้เพราะผู้สร้างเราขึ้นมาได้ ตายไปแล้ว จึงไม่มีใครต้องการเรา”
ฉันไม่ค่อยเข้าใจนักว่า ตายหมายถึงอะไร? ทำไมถึงไม่มีใครต้องการเรา?
คุณหมีได้ตอบกับฉันว่า
“ตาย หมายถึง ‘พัง’ โดยพวกมนุษย์ถ้าพังไปแล้ว ไม่มีใครที่ไหน ซ่อมได้อีก”
ในตอนนั้น ถึงแม้จะได้คำตอบมา ฉันก็ยังไม่เข้าใจมันเท่าไหร่อยู่ดี
เวลาผ่านไป พวกเราที่ถูกเก็บไว้ในห้องเก็บของได้แต่เฝ้ารอคอยที่จะได้ออกไป มีเจ้าของที่คอยรักและเอาใจใส่ แต่ก็ไม่มีใครมาพาพวกเราออกไปเลยสักคน
จนกระทั้ง เวลาผ่านไปหลายปี
ในที่สุด ก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง นำพวกเราออกมา เธอพาเรามาวางไว้ที่ที่สวยมากๆ เป็นห้องขนาดใหญ่ที่ฉันมารู้ที่หลังมามันเรียกว่าร้าน ร้านที่จะวางพวกเราเอาไว้ให้ผู้คนเดินดู เป็นสถานที่ ที่พวกเราจะได้พบคนที่จะมาเป็นเจ้าของ...ของเรา ร้านนี้มีหน้าต่างและประตูบานใหญ่ มองจากหน้าต่างออกไปจะเห็นถนนและรถม้า ผู้คนเดินขวักไขว่ ที่นี้มีคนมากมายแวะเวียนเข้ามา และได้พาตุ๊กตาตัวอื่นๆกลับไปด้วย ฉันมีความสุขกับการเฝ้ามองทุกอย่าง จากที่สุดพิเศษ คือข้างหน้าต่างที่หันออกถนน ฉันเฝ้ามองผู้คนมากหน้าหลายตาที่เข้ามา...เฝ้ามองความเป็นไปทั้งหมด ฉันได้ทักทายตุ๊กตาตัวใหม่ที่ผู้หญิงคนนั้นนำมา หลายตัว และฉันก็ได้บอกลาตุ๊กตาอีกหลายตัวเช่นกัน จนในที่สุดตุ๊กตาจากห้องแคบก็ถูกพาออกไป จนเหลือเพียงแต่ฉันตัวเดียวเท่านั้น ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่า
จะมีคนพาฉันออกไปบ้างไหม...
.......................................................................................
บันทึกของตุ๊กตา 2
ในวันหนึ่ง ก็มีผู้ชายวัยกลางคนท่าทางใจดี เดินมาหยุดมองฉัน
แล้วเขาก็อุ้มฉันขึ้นมา พาฉันออกไปจากร้านแห่งนี้
เขามอบฉันให้กับเด็กหญิงตัวน้อยหน้าตาน่ารัก
เด็กน้อยดูแลเอาใจใส่ฉันเป็นอย่างดี
เธอหาเสื้อผ้าสวยๆให้ฉันใส่ หวีผมให้ฉัน เล่นและพูดคุยกับฉัน
เธอบอกกับฉัน ว่า “เธอรักฉันมาก”
ฉันคือเพื่อนรักของเธอ ฉันเองก็อยากบอกกับเธอเหมือนกัน ว่า
“ฉันรักเธอ เจ้านายตัวน้อยของฉัน”
ฉันอยากจะพูด อยากจะกอดเธอ เหมือนที่เธอกอดฉัน
แต่ฉันเป็นตุ๊กตา... ฉันขยับไม่ได้และพูดไม่ได้
ฉันอยู่กับเด็กน้อยอย่างมีความสุข
จนกระทั้ง ในวันที่ฝนตกหนัก
ชายวัยกลางคนท่าทางใจดีคนเดิม ได้นำเอาตุ๊กตาตัวใหม่มาให้เจ้านายตัวน้อยของฉัน
ตุ๊กตาตัวนั้น เป็นตุ๊กตาหมีที่พูดได้
เธอดีใจมากๆ รักและเอาใจใส่ตุ๊กตาตัวใหม่เป็นอย่างดี
ในขณะเดียวกัน เจ้านายตัวน้อยก็เริ่มละเลยฉัน.....
เธอลืมฉัน... เธอไม่นอนกอดฉันทุกคืนอีกแล้ว...
เธอไม่พูดคุยกับฉัน...
และในที่สุด ฉันก็ถูกเก็บไว้ในกล่องแคบๆรวมกับของเล่นอีกมากมาย
ในกล่องนั้น...ทั้งแคบ...ทั้งเหงา
ฉันเจ็บรู้สึกเจ็บแปลกๆ มันไม่ใช่จากร่างกาย ไม่ใช้จากลอยถลอก.. มันเจ็บจากข้างใน
หนึ่งในของเล่นที่ถูกลืมที่ถูกเก็บในกล่องด้วยกันกับฉัน บอกว่า
“มันคือความเศร้า บางครั้งสำหรับมนุษย์จะมีน้ำตาไหลออกมาด้วย น้ำตาคือน้ำที่ไหลออกจากตาเพื่อระบายความเศร้าที่อยู่ภายใน แต่เราเป็นของเล่นและตุ๊กตา ไม่มีน้ำตาให้ไหล”
ระหว่างที่อยู่ภายในกล่อง ฉันได้แต่คิดว่า
ถ้าเกิด..ฉันสามารถพูดได้ เจ้านายตัวน้อยจะกลับมารักฉันเหมือนเดิมไหม?
ถ้าฉันขยับตัว กอดเธอได้ เจ้านายตัวน้อยจะลืมฉันอีกไหม? ...
ฉันคิดวนไปวนมา อยู่ภายในกล่องนั้น จนเวลาผ่านไป
กล่องถูกเปิดออก ฉันดีใจมาก ฉันคิดว่าเจ้านายตัวน้อยนึกถึงฉันแล้ว
เธอจะรัก จะเล่นกับฉันเหมือนเดิมอีกครั้ง...
แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น ฉันถูกนำไปให้กับเจ้านายคนใหม่ เขาเป็นหญิงวัยกลางคนที่ชอบสะสมตุ๊กตา ฉันถูกนำไปวางไว้ในตู้โชว์กระจกรวมกับตุ๊กตาอีกมากมาย... ไม่มีมือที่คอยสัมผัส
มีแต่สายตาที่จ้องมองมา แบบประเมิน ชื่นชม แต่ไม่มีความรักเลยแม้แต่น้อย
ฉันคิดว่า อยากพูดกับเจ้านายได้จังเลยนะ อยากขยับตัวได้จัง อยากจะแสดงออกได้จังว่า
ฉันรักเจ้านายขนาดไหน เจ้านายจะได้รักฉันบ้าง
จากตู้โชว์ ฉันถูกเศรษฐีคนใหม่ซื้อไป เขาเป็นชายชรา ที่ซื้อตุ๊กตาไปให้กับภรรยาของเขา พวกเขาน่ารักและรักฉันมาก ฉันก็รักพวกเขามากๆ และความอยากที่จะมีชีวิต
อยากขยับและพูดได้ก็มากขึ้นเรื่อยๆ...จนในที่สุด ฉันก็ขยับตัวและพูดได้จริงๆ
ฉันดีใจและมีความสุขมาก ฉันหวังว่าพวกเขาจะรู้สึกแบบเดียวกับฉัน..
แต่พอฉันขยับ ยังไม่ทันได้บอกได้แสดงถึงความรู้สึกของฉัน
แค่พอพวกเขารู้...
ความรักก็กลายเป็นความหวาดกลัว และรังเกียจ
พวกเขารีบเอาฉันใส่กล่องแคบๆเล็กๆ ตอกตะปูและยันต์มากมาย
แล้วเอาฉันไปทิ้งขยะ ราวกับ..ฉันเป็นสิ่งสกปรก
ฉันเจ็บปวดและเศร้าใจมาก อยากจะร้องไห้เพื่อระบายความรู้สึกวดหนึบในใจนี้ให้ทุเลาลงบ้าง
แต่ไม่สามารถร้องได้...
ฉันถูกเก็บไป คนที่เก็บฉันไปในตอนแรกก็รักฉันมาก
แต่พอฉันเริ่มขยับ เขาก็กลัวแล้วขายฉันทิ้งทันที
มันเป็นแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา ถูกซื้อ ถูกทิ้ง ถูกเก็บ ถูกขาย วนเวียนไม่รู้จบ
ฉันได้แต่ภาวนาและเฝ้ารอว่า เมื่อไหร่ฉันจะพบกับคนที่รักฉันจริงๆและจะไม่กลัวฉันเสียที...
ผลงานอื่นๆ ของ sorafa ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ sorafa
ความคิดเห็น